ความรู้ประสบการณ์เรื่องเนื้องอก(มดลูก)และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
สวัสดีค่ะดิฉันชื่อทิพค่ะ วันนี้ขอมาเล่าประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต ตอนนี้พี่ทิพอายุ 53 ปี ผ่านการผ่าตัดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกระยะที่สอง แถมมีเนื้องอกในมดลูกอยู่ 5-6 ก้อน แต่ละก้อนมีขนาด 5-7 ซม.
ย้อนไปเมื่อปี 47 พี่ทิพมีอาการประจำเดือนมามกผิดปกติและเป็นเวลานานหลายวัน พี่ทิพได้ไปตรวจและคุณหมอได้อัลตร้าซาวด์ได้พบว่ามีเนื้องอกชิ้นเล็กๆอยู่ประมาณ 5-6 ชิ้น แต่ตอนนั้นแต่ละชิ้นยังมีขนาดเล็กมากประมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียว คุณหมอเลยไม่ได้ผ่าตัด และให้พี่ทิพไปตรวจภายในทุกปี เพื่อตรวจมะเร็งปากมดลูก และดูว่าเนื้องอกเหล่านั้นจะพัฒนาโตขึ้นอีกมั้ย
แต่เนื่องจากพี่ทิพไม่ชอบการหาหมอโดยเฉพาะการตรวจภายใน พี่ทิพไม่เคยไปพบคุณหมอตามนัดเลยจนเวลาผ่านไปเกือบ 4 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านไปพี่ทิพไม่มีอาการผิดปกติอะไรทั้งสิ้น จะมีก็แต่โรคความดันโลหิตสูง จนปลายปี 50 ประจำเดือนพี่ทิพก็หมด หลังจากประจำเดือนหมดพี่ทิพก็ไม่มีอาการของคนวัยทอง จะมีก็แต่เรื่องความดันอย่างเดียว มีความรู้สึกว่าตัวเราแข็งแรงบึกบึน เพราะตัวใหญ่น้ำหนัก 74-76กิโล
หลังประจำเดือนหมดไปได้ 9 เดือน วันหนึ่งก็มีเลือดออกมาทางช่องคลอดมากผิดปกติ พี่ทิพต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยเกือบทุก 10 นาทีผ่านไปได้ 4 วันเลือดก็ยังไม่มีท่าว่าจะน้อยลงค่ะ ตอนแรกๆพี่ทิพคิดว่าเป็นอาการของวัยทอง คิดว่ามาได้เดี๋ยวก็หยุดได้ แต่ในที่สุดพี่ทิพไม่ค่อยสบายใจเลยไปตรวจที่ รพ.เดิมเพราะมีประวัติของเราอยู่ แต่วันนั้น คุณหมอท่านเดิมไม่ได้ออกตรวจพี่ทิพเลยตรวจกับคุณหมออีกท่าน คุณหมอบอกว่าพี่ทิพท้องใหญ่เหมือนคนท้อง 3 เดือน แต่เลือดออกมากยังกับคนแท้งลูกเลย พี่ทิพเลยได้บอกคุณหมอว่าพี่ทิพมีเนื้องอกอยู่ตามประวัติในแฟ้มส์ คุณหมอได้ตรวจและเก็บชิ้นเนื้อไปแลป นัดฟังผล ปรากฎว่าผลออกมาพี่ทิพเป็นมะเร็งค่ะ คุณหมอบอกว่าพี่ทิพเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก พี่ทิพถามวันเป็นขั้นไหน คุณหมอบอกขั้นกลางๆและบอกให้พี่แอตมิทเลย บอกตรงๆว่าในใจยังไม่เชื่อว่าตัวพี่ทิพเป็นมะเร็ง
พี่ทิพเลยตัดสินใจขอข้อมูลทั้งหมด เพื่อไปพบคุณหมอท่านเดิม ซึ่งวันนั้นพี่ทิพมึนตึบเลยค่ัะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีแถมพอรู้ว่าค่าผ่าตัดเป็นแสนบอกตรงๆว่าไม่มีปัญญารักษาแน่นอน เพราะตัวพี่ทิพมีปัญหาค่ารักษาค่ะ
พี่ทิพเช็คไปหลาย รพ.จนกรทั่งไปพบที่ รพ.บำรุงราษฎร์ ในใจก็คิดว่าแล้วเราจะมีค่าผ่าตัดหรือ แต่ก็ได้ตัดสินใไปพบคุณหมอท่านนี้ก่อน พี่ทิพไปพบท่านวันนั้นเลย และท่านได้ดูผลแลปแล้วท่านก็ถามพี่ทิพว่าทำไมถึงปล่อยให้เป็นมากถึงขนาดนี้พี่ทิพถามวว่าพี่ทิพจะรอดมั้ย และจะอยู่ได้อีกกี่เดือน ท่านบอกว่ายังตอบไม่ได้ต้องผ่าเปิดหน้าท้องดูก่อน ท่านบอกให้รีบผ่าเลย พี่ทิพถามว่าค่าใช้จ่ายอยู่ที่เท่าไหร่ แต่พอรู้ก็นึกเลยว่าเราไม่รอดแน่ เพราะไม่มีปัญญาหรอกค่ะ วันนั้นท่านเลยขออัลตร้าซาวด์ดูอีกที ปรากฎว่าเนื้องอกแต่ละก้อนจากวันนั้นเมื่อปี 47 ตอนนี้มีขนาด 5-7 ซม.และก้อนเล็กก้อนน้อยอีกหลายก้อน
พี่ทิพจึงตัดสินใจบอกเหตุผลที่ไม่สามารถผ่าตัดที่ รพ.นี้ได้และได้ขอความอนุเคราะห์ขอให้ท่านฝาก อจ.หมอ รพ.จุฬาลงกรณ์ พี่ทิพต้องการผ่าตัดที่ รพ.จุฬาโดยที่ตัวพี่ทิพไม่เคยรู้จักคุณหมอที่ รพ.จุฬาเลยค่ะ เพราะไม่เคยใช้บริการ พี่ทิพบอกว่าถ้าผ่าตัดแล้วไม่มีห้องพักฟื้นพี่ทิพนอนเปลสนามก็ได้ขอให้ได้ผ่าก็แล้วกัน คุณหมอท่านเลยนัดให้พี่ทิพมาที่ รพ. อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ 12/07/51 ที่บอกว่าจะฝากให้กับ อจ.ดำรง ตรีสุโกศล ท่านเป็น อจ.ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา หน่วยมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์สตรี พี่ทิพได้พบ อจ.ดำรง และท่านได้ดูผลการตรวจ ผลแลป ท่านนัดให้พี่ทิพไปทำประวัติที่ รพ.จุฬาค่ะ พี่ทิพเรียนท่านว่าพี่ทิพไมีมีเงินมาก ท่านบอกว่าเราไปผ่าตัดที่ จุฬากัน
พี่ทิพถาม อจ.ว่าพี่ทิพจะรอดมั้ย โรคนี้เป็นแล้วรักษาได้หรือ อจ.ดำรง ท่านบอกว่า มะเร็งมีอยู่ 4 ระยะคือ 25% 50% 75% 100% ของพี่ทิพน่าจะอยู่ที่ 50% แต่ก็ต้องเปิดหน้าท้องดูก่อนว่าเชื้อมะเร็งได้แพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองแล้วหรือยัง หรือ มะเร็งได้เจาะผนังกล้ามเนื้อมดลูกแล้วหรือยัง หรือกระจายไปอวัยวะส่วนอื่นแล้วหรือยัง อจ.ดำรง ท่านบอกพี่ทิพว่า อาจต้องคลีโมสัก 6-7 ครั้ง และถ้าเปิดหน้าท้องแล้ว อจ.จะผ่าเกินพื้นที่คือถ้าพี่ทิพเป็นอยู่ขั้น 50%ท่านก็จะผ่าเกินบริเวณพื้นที่เป็น 75%พี่ทิพได้คิวผ่าตัดหลังจากรั้นเพียงแค่อาทิตย์เดียวค่ะ พี่ทิพผ่าตัดเมื่อวันที่ 19/07/51 และอจ.ท่านตัดลำไส้ใหญ่ส่วนไขมันทิ้งไปบางส่วน ท่านเลาะต่อมน้ำเหลืองจุดใหญ่ในช่องท้องออก5จุดใหญ่ หลังผ่าตัดวันรุ่งขึ้นท่านมาเยี่ยมและรายงานผลการผ่าตัดว่า ผลการผ่าตัดเรียบร้อยดี เท่าที่มองด้วยตาเปล่าน๊ะต่อมน้ำเหลืองไม่โต แต่ก็ต้องรอผลแลปก่อนตอนนั้นพี่ทิพไม่เข้าใจว่าต่อมน้ำเหลืองไม่โตหมายถึงอะไรและถามว่าต้องคลีโมมั้ย อจ.บอกต่อมน้ำเหลืองไม่โตหมายถึงเชื้อมะเร็งยังไม่ลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง แลไม่ต้องคลีโม แต่ที่มีปัญหาใหญ่คือพี่ทิพต้องใส่สายสวนปัสสวะอยู่เกือบ 2 เดือนเพราะตอนผ่าตัด อจ. ได้ตัดประสาทเส้นควบคุมการปัสสวะทิ้ง 3 เส้นเพราะเส้นปัสสวะไปขวงการผ่าตัดค่ะ (พยาบาลบอกพี่ทิพ)
ตอนนี้พีทิพร่างกายโดยทั่วๆไปแข็งแรงดีค่ะ พี่ทิพหลังผ่าตัด 3 เดือนแรก อารมณ์เปลี่ยนเป็นคนซึมเศร้าวันๆเอาแต่ร้องไห้ คุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ แต่หลังจาก 6 เดือน พี่ทิพกลายเป็นคนอารมณ์ดี และน้ำหนักก่อนผ่าตัด 74 กิโล ตอนนี้พี่ทิพ น้ำหนัก 58-59 กิโล ความดันก็ค่อนข้างปกติ หลังผ่าตัดพี่ทิพดูแลตัวอย่างตลอดตั้งแต่เรื่อง อาหาร จิตใจ และการออกกำลังกาย ตอนนี้พี่ทิพมีร่างกายที่ดูดี ไม่อ้วนเมื่อก่อนพี่ทิพใครๆก็เรียก เจ๊คุมวินค่ะ หรือ แม่หมูตอนค่ะ ทุกวันนี้พี่ทิพเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ พี่ทิพได้ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเก่า
พี่ทิพอยากบอกเพื่อนๆว่า เมื่อร่างกายเราเริ่มรู้สึกว่าผิดปกติ เช่น ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือมีอาการปวดท้องมากผิดปกติเมื่อมีประจำเดือน หรือคนที่มีร่างกายอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เครียดเป็นประจำ หรือคนที่ชอบทานอาหารที่มีโปรตีนสูง สัตว์เนื้อแดง หรือคนที่ประจำเดือนหมดช้า เพราะผู้หญิงปกติประจำเดือนจะหมดเมื่ออายุ 48-49 หรือหลังจากที่ประจำเดือนหมดไปแล้ว 1 ปี อยู่ๆมีเลือดออกมาทางช่องคลอดอีก พี่ทิพอยากแนะนำว่าไม่ควรมองข้าม ไม่ควรคิดว่าไม่เป็นอะไร เพราะถ้าเกิดโชคร้ายอย่างพี่ทิพคือเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และเนื้องอกในมดลูก อาจจะรักษาไม่ทัน พี่ทิพยังมีความโชคดีที่รักษาทัน และโชคดีที่ได้ อจ. ดำรง ตรีสุโกศล เป็นแพทย์เจ้าของไข้ ท่านให้ชีวิตใหม่กับพี่ทิพ และตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านไม่เคยทิ้งคนไข้ของท่านค่ะ เพื่อนๆถ้าต้องการคำแนะนำหรือข้อมูลเพิ่มพี่ทิพยินดีให้คำแนะนำค่ะ 081-925-7469
พี่ทิพ
สองเดือนกับสายสวนปัสสวะหลังผ่าตัดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
และการณ์แชร์ประสบการณ์ของเพื่อนๆหลังผ่าตัด
ประสบการณ์การตั้งครรภ์ท้องแรกกับอาการมดลูกต่ำ
ประสบการณ์การเลี้ยงลูกคนแรก
ประสบการณ์การป้อนยาเมื่อลูกป่วย (เกือบเสียลูกไปเมื่อลูกสำลักยา)
อาหารต้านมะเร็ง
อ่านในหน้าบทความค่ะ
เกิดเป็นคนทั้งทีจะไม่สร้างความดีให้เป็นที่ประทับใจของความเป็นคนไว้ให้คนข้างหลัง ก็น่าเสียดายเวาลที่ผ่านไปจริงๆคนเราอยู่ไม่ถึงร้อยปี
ย้อนไปเมื่อปี 47 พี่ทิพมีอาการประจำเดือนมามกผิดปกติและเป็นเวลานานหลายวัน พี่ทิพได้ไปตรวจและคุณหมอได้อัลตร้าซาวด์ได้พบว่ามีเนื้องอกชิ้นเล็กๆอยู่ประมาณ 5-6 ชิ้น แต่ตอนนั้นแต่ละชิ้นยังมีขนาดเล็กมากประมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียว คุณหมอเลยไม่ได้ผ่าตัด และให้พี่ทิพไปตรวจภายในทุกปี เพื่อตรวจมะเร็งปากมดลูก และดูว่าเนื้องอกเหล่านั้นจะพัฒนาโตขึ้นอีกมั้ย
แต่เนื่องจากพี่ทิพไม่ชอบการหาหมอโดยเฉพาะการตรวจภายใน พี่ทิพไม่เคยไปพบคุณหมอตามนัดเลยจนเวลาผ่านไปเกือบ 4 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านไปพี่ทิพไม่มีอาการผิดปกติอะไรทั้งสิ้น จะมีก็แต่โรคความดันโลหิตสูง จนปลายปี 50 ประจำเดือนพี่ทิพก็หมด หลังจากประจำเดือนหมดพี่ทิพก็ไม่มีอาการของคนวัยทอง จะมีก็แต่เรื่องความดันอย่างเดียว มีความรู้สึกว่าตัวเราแข็งแรงบึกบึน เพราะตัวใหญ่น้ำหนัก 74-76กิโล
หลังประจำเดือนหมดไปได้ 9 เดือน วันหนึ่งก็มีเลือดออกมาทางช่องคลอดมากผิดปกติ พี่ทิพต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยเกือบทุก 10 นาทีผ่านไปได้ 4 วันเลือดก็ยังไม่มีท่าว่าจะน้อยลงค่ะ ตอนแรกๆพี่ทิพคิดว่าเป็นอาการของวัยทอง คิดว่ามาได้เดี๋ยวก็หยุดได้ แต่ในที่สุดพี่ทิพไม่ค่อยสบายใจเลยไปตรวจที่ รพ.เดิมเพราะมีประวัติของเราอยู่ แต่วันนั้น คุณหมอท่านเดิมไม่ได้ออกตรวจพี่ทิพเลยตรวจกับคุณหมออีกท่าน คุณหมอบอกว่าพี่ทิพท้องใหญ่เหมือนคนท้อง 3 เดือน แต่เลือดออกมากยังกับคนแท้งลูกเลย พี่ทิพเลยได้บอกคุณหมอว่าพี่ทิพมีเนื้องอกอยู่ตามประวัติในแฟ้มส์ คุณหมอได้ตรวจและเก็บชิ้นเนื้อไปแลป นัดฟังผล ปรากฎว่าผลออกมาพี่ทิพเป็นมะเร็งค่ะ คุณหมอบอกว่าพี่ทิพเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก พี่ทิพถามวันเป็นขั้นไหน คุณหมอบอกขั้นกลางๆและบอกให้พี่แอตมิทเลย บอกตรงๆว่าในใจยังไม่เชื่อว่าตัวพี่ทิพเป็นมะเร็ง
พี่ทิพเลยตัดสินใจขอข้อมูลทั้งหมด เพื่อไปพบคุณหมอท่านเดิม ซึ่งวันนั้นพี่ทิพมึนตึบเลยค่ัะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีแถมพอรู้ว่าค่าผ่าตัดเป็นแสนบอกตรงๆว่าไม่มีปัญญารักษาแน่นอน เพราะตัวพี่ทิพมีปัญหาค่ารักษาค่ะ
พี่ทิพเช็คไปหลาย รพ.จนกรทั่งไปพบที่ รพ.บำรุงราษฎร์ ในใจก็คิดว่าแล้วเราจะมีค่าผ่าตัดหรือ แต่ก็ได้ตัดสินใไปพบคุณหมอท่านนี้ก่อน พี่ทิพไปพบท่านวันนั้นเลย และท่านได้ดูผลแลปแล้วท่านก็ถามพี่ทิพว่าทำไมถึงปล่อยให้เป็นมากถึงขนาดนี้พี่ทิพถามวว่าพี่ทิพจะรอดมั้ย และจะอยู่ได้อีกกี่เดือน ท่านบอกว่ายังตอบไม่ได้ต้องผ่าเปิดหน้าท้องดูก่อน ท่านบอกให้รีบผ่าเลย พี่ทิพถามว่าค่าใช้จ่ายอยู่ที่เท่าไหร่ แต่พอรู้ก็นึกเลยว่าเราไม่รอดแน่ เพราะไม่มีปัญญาหรอกค่ะ วันนั้นท่านเลยขออัลตร้าซาวด์ดูอีกที ปรากฎว่าเนื้องอกแต่ละก้อนจากวันนั้นเมื่อปี 47 ตอนนี้มีขนาด 5-7 ซม.และก้อนเล็กก้อนน้อยอีกหลายก้อน
พี่ทิพจึงตัดสินใจบอกเหตุผลที่ไม่สามารถผ่าตัดที่ รพ.นี้ได้และได้ขอความอนุเคราะห์ขอให้ท่านฝาก อจ.หมอ รพ.จุฬาลงกรณ์ พี่ทิพต้องการผ่าตัดที่ รพ.จุฬาโดยที่ตัวพี่ทิพไม่เคยรู้จักคุณหมอที่ รพ.จุฬาเลยค่ะ เพราะไม่เคยใช้บริการ พี่ทิพบอกว่าถ้าผ่าตัดแล้วไม่มีห้องพักฟื้นพี่ทิพนอนเปลสนามก็ได้ขอให้ได้ผ่าก็แล้วกัน คุณหมอท่านเลยนัดให้พี่ทิพมาที่ รพ. อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ 12/07/51 ที่บอกว่าจะฝากให้กับ อจ.ดำรง ตรีสุโกศล ท่านเป็น อจ.ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา หน่วยมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์สตรี พี่ทิพได้พบ อจ.ดำรง และท่านได้ดูผลการตรวจ ผลแลป ท่านนัดให้พี่ทิพไปทำประวัติที่ รพ.จุฬาค่ะ พี่ทิพเรียนท่านว่าพี่ทิพไมีมีเงินมาก ท่านบอกว่าเราไปผ่าตัดที่ จุฬากัน
พี่ทิพถาม อจ.ว่าพี่ทิพจะรอดมั้ย โรคนี้เป็นแล้วรักษาได้หรือ อจ.ดำรง ท่านบอกว่า มะเร็งมีอยู่ 4 ระยะคือ 25% 50% 75% 100% ของพี่ทิพน่าจะอยู่ที่ 50% แต่ก็ต้องเปิดหน้าท้องดูก่อนว่าเชื้อมะเร็งได้แพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองแล้วหรือยัง หรือ มะเร็งได้เจาะผนังกล้ามเนื้อมดลูกแล้วหรือยัง หรือกระจายไปอวัยวะส่วนอื่นแล้วหรือยัง อจ.ดำรง ท่านบอกพี่ทิพว่า อาจต้องคลีโมสัก 6-7 ครั้ง และถ้าเปิดหน้าท้องแล้ว อจ.จะผ่าเกินพื้นที่คือถ้าพี่ทิพเป็นอยู่ขั้น 50%ท่านก็จะผ่าเกินบริเวณพื้นที่เป็น 75%พี่ทิพได้คิวผ่าตัดหลังจากรั้นเพียงแค่อาทิตย์เดียวค่ะ พี่ทิพผ่าตัดเมื่อวันที่ 19/07/51 และอจ.ท่านตัดลำไส้ใหญ่ส่วนไขมันทิ้งไปบางส่วน ท่านเลาะต่อมน้ำเหลืองจุดใหญ่ในช่องท้องออก5จุดใหญ่ หลังผ่าตัดวันรุ่งขึ้นท่านมาเยี่ยมและรายงานผลการผ่าตัดว่า ผลการผ่าตัดเรียบร้อยดี เท่าที่มองด้วยตาเปล่าน๊ะต่อมน้ำเหลืองไม่โต แต่ก็ต้องรอผลแลปก่อนตอนนั้นพี่ทิพไม่เข้าใจว่าต่อมน้ำเหลืองไม่โตหมายถึงอะไรและถามว่าต้องคลีโมมั้ย อจ.บอกต่อมน้ำเหลืองไม่โตหมายถึงเชื้อมะเร็งยังไม่ลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง แลไม่ต้องคลีโม แต่ที่มีปัญหาใหญ่คือพี่ทิพต้องใส่สายสวนปัสสวะอยู่เกือบ 2 เดือนเพราะตอนผ่าตัด อจ. ได้ตัดประสาทเส้นควบคุมการปัสสวะทิ้ง 3 เส้นเพราะเส้นปัสสวะไปขวงการผ่าตัดค่ะ (พยาบาลบอกพี่ทิพ)
ตอนนี้พีทิพร่างกายโดยทั่วๆไปแข็งแรงดีค่ะ พี่ทิพหลังผ่าตัด 3 เดือนแรก อารมณ์เปลี่ยนเป็นคนซึมเศร้าวันๆเอาแต่ร้องไห้ คุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ แต่หลังจาก 6 เดือน พี่ทิพกลายเป็นคนอารมณ์ดี และน้ำหนักก่อนผ่าตัด 74 กิโล ตอนนี้พี่ทิพ น้ำหนัก 58-59 กิโล ความดันก็ค่อนข้างปกติ หลังผ่าตัดพี่ทิพดูแลตัวอย่างตลอดตั้งแต่เรื่อง อาหาร จิตใจ และการออกกำลังกาย ตอนนี้พี่ทิพมีร่างกายที่ดูดี ไม่อ้วนเมื่อก่อนพี่ทิพใครๆก็เรียก เจ๊คุมวินค่ะ หรือ แม่หมูตอนค่ะ ทุกวันนี้พี่ทิพเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ พี่ทิพได้ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเก่า
พี่ทิพอยากบอกเพื่อนๆว่า เมื่อร่างกายเราเริ่มรู้สึกว่าผิดปกติ เช่น ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือมีอาการปวดท้องมากผิดปกติเมื่อมีประจำเดือน หรือคนที่มีร่างกายอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เครียดเป็นประจำ หรือคนที่ชอบทานอาหารที่มีโปรตีนสูง สัตว์เนื้อแดง หรือคนที่ประจำเดือนหมดช้า เพราะผู้หญิงปกติประจำเดือนจะหมดเมื่ออายุ 48-49 หรือหลังจากที่ประจำเดือนหมดไปแล้ว 1 ปี อยู่ๆมีเลือดออกมาทางช่องคลอดอีก พี่ทิพอยากแนะนำว่าไม่ควรมองข้าม ไม่ควรคิดว่าไม่เป็นอะไร เพราะถ้าเกิดโชคร้ายอย่างพี่ทิพคือเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และเนื้องอกในมดลูก อาจจะรักษาไม่ทัน พี่ทิพยังมีความโชคดีที่รักษาทัน และโชคดีที่ได้ อจ. ดำรง ตรีสุโกศล เป็นแพทย์เจ้าของไข้ ท่านให้ชีวิตใหม่กับพี่ทิพ และตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านไม่เคยทิ้งคนไข้ของท่านค่ะ เพื่อนๆถ้าต้องการคำแนะนำหรือข้อมูลเพิ่มพี่ทิพยินดีให้คำแนะนำค่ะ 081-925-7469
พี่ทิพ
สองเดือนกับสายสวนปัสสวะหลังผ่าตัดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
และการณ์แชร์ประสบการณ์ของเพื่อนๆหลังผ่าตัด
ประสบการณ์การตั้งครรภ์ท้องแรกกับอาการมดลูกต่ำ
ประสบการณ์การเลี้ยงลูกคนแรก
ประสบการณ์การป้อนยาเมื่อลูกป่วย (เกือบเสียลูกไปเมื่อลูกสำลักยา)
อาหารต้านมะเร็ง
อ่านในหน้าบทความค่ะ
เกิดเป็นคนทั้งทีจะไม่สร้างความดีให้เป็นที่ประทับใจของความเป็นคนไว้ให้คนข้างหลัง ก็น่าเสียดายเวาลที่ผ่านไปจริงๆคนเราอยู่ไม่ถึงร้อยปี